AMORNIE.....THE ONE AND ONLY     อามอร์นี่...หนึ่งเดียวในโลกนี้ ไม่มีอามรนั้น หรือ อามรโน่น มีแต่อามอร์นี่
YOUPIK เริ่มต้นธุรกิจ ง่ายๆแค่ปลายนิ้ว ไม่ต้องสต็อกสินค้าเอง
เข้าถึงแบรนด์ชั้นนำ และ ผู้ผลิตที่ทำให้คุณสามารถร่วมสร้างและเติบโตธุรกิจไปด้วยกัน.

Start your business at your fingertips with zero stocks
.
Read more.
 
www.amornie.com>
Slang
Column
Articles
Quotes
About Amornie
Photos
English Question
 
 
LEARN TO MAKE MONEY
2 WEEKS DIET
2 WEEKS DIET
MEDICINE BOOK
USED BOOKS USED TEXTBOOKS
BE YOUNG AGAIN
Love Scent Pheromone
 
 
 

Hello
(You had me at hello)

ถ้าท่านย่างก้าวเข้าไปยังสถานที่ประกอบการธุรกิจซึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อทั้งหลาย, เสียงแรกที่คุณจะได้ยินเมื่อคุณก้าวเท้าเข้าไปในร้านคือคําว่า “สวัสดี” – นอกเสียจากว่าประสิทธิภาพในการรับฟังของอวัยวะที่ใช้เพื่อการรับฟังของคุณถูกทําลาย หรือ เสื่อมลงอย่างมาก, คําพูด “สวัสดี” คงไม่สามารถเล็ดรอดผ่านเข้าไปสู่รูหูของคุณได้.  “สวัสดี” เป็นคําซึ่งใช้ในการทักทายเมื่อเราพบกัน,และผู้ที่ได้ยินคํานี้ควรอย่างยิ่งที่จะตอบกลับด้วยคําว่า “สวัสดี” เช่นกัน, ซึ่งเป็นมารยาทที่ดี. การกล่าวทักทายใน ภาษา อังกฤษ มีอยู่ด้วยกันหลายแบบ, ซึ่งบางแบบต้องใช้ให้เหมาะสมกับบุคคลและเวลา. จําเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ศึกษาภาษาต้องจดจําและนําไปใช้ให้ถูกต้อง. คํากล่าวทักทายใน ภาษา อังกฤษ มีอยู่ด้วยกันดังนี้:

1) Hello interjection, noun also hallo, hullo British English [countable] Used as a greeting when you see or meet someone. ใช้กล่าวทักทายเมื่อคุณเห็น หรือ พบใครบางคน: “สวัสดี”.
Ex1: Hello, is it me you’re looking for? สวัสดี, เธอกําลังมองหาฉันใช่ใหม?
Ex2
: You had me at hello. เธอมีฉันที่สวัสดี. ความหมายที่แท้จริงของประโยคนี้คือ “ฉันเป็นของเธอเมื่อเธอพูดว่าสวัสด หรือ I am yours when you’d said hello” จากภาพยนตร์  Jerry Maguire – แจ๊ร์ริ่ แม็กไกวเออะร์. Show me the money!! จําได้ใหม?

2) Hi /Hiya/Hey American: Informal: say this when you are greeting someone, especially a friend or relative. Hiya and Hey are more informal than Hi, and you say them to people you know very well. “ไม่เป็นทางการ”: กล่าวคําเหล่านี้เมื่อคุณทักทายใครบางคน, โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเพื่อน หรือ ญาติ. Hiya (ไฮ้หยะ) และ Hey ไม่เป็นทางการมากกว่า Hi, และคุณใช้คําเหล่านี้กับคนที่คุณรู้จักอย่างดี.
Ex1: Hi, Tim - did you have a nice (pleasant, attractive, or enjoyable) weekend? ไฮ, ทิม – เธอมีวันสิ้นสุดสัปดาห์ที่ดีใหม?
Ex2
: Hiya, Bob. How was your weekend? ไฮ้หยะ, บ็อบ. วันสิ้นสุดสัปดาห์ของเธอเป็นอย่างไร?
Ex3
: Hey, Tom. What’s up dude? เฮ้, ทอม. ว่าไงพวก?

3) Hi there / Hey there American: Informal: say this when you are greeting someone, especially someone you did not expect to see. “ไม่เป็นทางการ”: กล่าวคํานี้เมื่อคุณทักทายใครบางคน,โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับใครบางคนที่คุณไม่คาดหวังที่จะได้เจอ.
Ex1
: Hi there, Roger! Long time no see. ไฮ้  แธร์, ร๊อเจ่อะร์! ไม่เห็นนานเลยนะ.
Ex2: Hey there, stranger. We haven't seen you around here for ages. เฮ้  แธร์, คนแปลกหน้า. เราไม่ได้เห็นเธอแถวนี้นานมาก.

4) How are you? /how are you doing? /how's it going? : Informal: say this when you are greeting someone and starting a conversation. “ไม่เป็นทางการ”: กล่าวคํานี้เมื่อคุณทักทายใครบางคนและเริ่มต้นมีการสนทนา.
Ex1
: Hi Bob. How are you today? หวัดดี บ็อบ. เธอเป็นอย่างไรบ้างวันนี้?
Ex2
: Hi, Robert. How are you doing? Did you get the job? หวัดดี, รอเบริท.เธอเป็นอย่างไรบ้าง? เธอได้งานใหม?
Ex3
: How's it going, Dan? I haven't seen you for a long time. เป็นไงบ้าง, แดน? ฉันไม่ได้เจอเธอนานเลย.

5) Pleased/good/nice to meet you: say this when you meet someone for the first time and have just been told his/her name. กล่าวคํานี้เมื่อคุณพบใครบางคนเป็นครั้งแรก และ เพิ่งถูกบอกชื่อบุคคลนั้นให้ทราบ.
Ex1: "My name is Elaine Robinson." "Pleased to meet you, I'm Benjamin" “ชื่อของฉันคือ อีเลน รอบันสัน.” “ดีใจที่ได้รู้จักคุณ, ผมคือ เบ็นจะมิน”
Ex2
: "Richard, this is my brother Douglas." "Nice to meet you, Douglas." “ริทเฉริด, นี่คือพี่ชายของฉัน ดั๊กลัส” “ดีใจที่ได้รู้จักคุณ”
Ex3: Mrs. Robinson, it's good to meet you. คุณนาย รอบันสัน, ดีใจที่ได้รู้จักคุณ.

6) How do you do: Formal: say this when you are meeting someone for the first time, especially when you have just been told his/her name. “เป็นทางการ”: กล่าวคํานี้เมื่อคุณพบใครบางคนเป็นครั้งแรก, โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเพิ่งถูกบอกชื่อบุคคลนั้นให้ทราบ.
Ex1
: How do you do, sir. My name is Jerry Maguire. I will show you the money. เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รู้จัก, ครับ. ชื่อของผมคือ แจ๊ร์ริ่ แม็กไกวเออะร์. ผมจะนําคุณไปหาเงิน.  
Ex2
: "Susan, this is Mr. Maguire." "Oh, how do you do." “ซู๊ซั่น, นี่คือคุณ แม็กไกวเออะร์ ” “โอ้, เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รู้จัก”

7) Morning/afternoon/evening: say this as a quick greeting at a particular time of day, especially when you work with the person you are greeting and see him/her regularly. กล่าวคํานี้ซึ่งเป็นการทักทายอย่างรวดเร็วตามช่วงเวลาของวัน, โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณทํางานกับบุคคลนั้นและคุณกล่าวทักทายคนนั้นเป็นประจํา.
Ex
: Morning, everyone. Sorry I'm late. หวัดดีตอนเช้า, ทุกคน. ขอโทษ ฉันมาสาย.
Ex
: Afternoon, Susan - got time for a quick cup of tea? หวัดดีตอนบ่าย, ซู๊ซั่น – มีเวลาสักนิดสําหรับชาสักถ้วยใหม?
Ex
: Evening, all! Are we ready to go? หวัดดีตอนเย็น, ทุกคน! พวกเราทั้งหมดพร้อมที่จะไปหรือยัง?

8) Good morning/good afternoon/good evening: Formal: say this to greet someone at a particular time of the day. “เป็นทางการ”: กล่าวคํานี้ซึ่งเป็นการทักทายตามช่วงเวลาของวัน.
Ex
: Good morning, everyone. Let me introduce our new “colleague” (someone you work with - use this especially about people who do professional jobs in offices, schools, government etc). สวัสดีตอนเช้า, ทุกคน. ผมขอแนะนําผู้ร่วมงานคนใหม่ของเรา.
Ex
: Good afternoon. I’m here to see Mr. Robinson. สวัสดีตอนบ่าย. ผมมาที่นี้เพื่อพบคุณ  รอบันสัน.
Ex: Good evening, class! How’s everyone doing tonight? สวัสดีตอนเย็น, นักเรียนทั้งหลาย! ทุกคนเป็นอย่างไรบ้างคืนนี้?

ผู้ที่มีตําแหน่งการงานที่สูง, บุคคลที่มีการศึกษาสูง, หรือ คนที่มีเงินตรามหาศาล, แต่มีกริยาเป็นไพร่กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ต่างอะไรไปจากคนป่าในแอฟริกา. บางคนอาจจะหนักหนากว่านั้นเป็นสัตว์ป่าไปเลยก็มี. น่าสงสารพ่อและแม่ของพวกเขาเหล่านี้ที่สูญเสียหยาดเหงื่อและเงินตราให้ลูกตนมีการศึกษา, ซึ่งนํามาถึงตําแหน่งและเงินตราแต่มีพฤติกรรมที่ตํ่าช้า – หมายังน่ารักกว่าพวกนี้. การมีมารยาทที่ดีคือการตอบแทนบุผการีที่ส่งเสียและเลี้ยงดูเรามา. มาเริ่มต้นมารยาทที่ดีด้วยการกล่าวทักทายกันด้วยคําว่า  สวัสดี (hello) กันเถอะ. และโปรดอย่าลืมสามคําพูดมหัศจรรย์เหล่านี้, ซึ่งคือคําว่า ขอบคุณ (thank you), ขอโทษ (sorry), และ โปรด (please). ขอปิดท้ายคอลัมน์ด้วยบางท่อนของเพลง  Hello, ซึ่งขับร้องโดย Lionel Ritchie – it’s one of my favorites. I hope it’s one of yours. “Hello, is it me you're looking for? 'Cause I wonder where you are. And I wonder what you do. Are you somewhere feeling lonely or is someone loving you? Tell me how to win your heart. For I haven't got a clue. But let me start by saying. I love you”.

ย้อนกลับ

 
 
Rain. Inspiring story

“Life is a series of ups and downs. And, the sunshine follows the rain” ชีวิตมีขึ้น และ มีลง, และอาทิตย์ส่องแสงหลังฝนหยุดตก. เช่นเดียวกับชีวิตเรา. ก่อนที่เราจะประสบความสำเร็จ,  เราต้องต่อสู้กับอุปสรรค........
Would you? Very Funny
    วิธีที่จะทําให้ใครบางคน
ทําอะไร หรือให้อะไรแก่เรา
มีหลาย วิธีการ: อาทิเช่น; การเสนอ เงินตรา, ชื่อเสียง, และ ตําแหน่ง......
Sidewalk. Very funny

มีถนนสายหนึ่งชื่อ “Walking Street” ซึ่งมีคนแปลเป็นไทยว่า ถนนคนเดิน. จริงๆแล้ว, มีแม้กระทั่ง แมว, หมา, งู, “เฒ่าหัวงู (dirty old man)”, และ ช้างเดิน.........
 
 
 
I love emails, I kill phones!
© Copyright 2024 . Contact amornm@hotmail.com