|
Extradite
(To make someone leave the country)
ผู้ที่กระทำผิดกฎหมายที่มีฐานะดีมาก จากการทุริต และ ปลิดชีวิตมนุษย์ ในประเทศหนึ่ง, ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นนักโกงเมืองที่มีอาชีพเป็นนักการเมืองเป็นกลุ่มคนที่มีขีดความสามารถสูง ทำให้ตัวเอง, ภรรยาที่มากมาย, ลูกที่มากมาย, และ หลานที่มากมาย เจริญรุ่งเรืองทางทรัพย์สินยกเว้นจิตใจ. หลังจากโกงกินเพื่อครอบครัวของตัวเองเป็น ร้อยล้าน, พันล้าน, หมื่นล้าน, หรือ แม้กระทั้งแสนล้าน ก็ถูกจับกุม และ ดำเนินคดีในข้อหาทุจริต, แต่พวกเขาเป็นมหาเศรษฐีพวกนี้จึงหนีออกนอกประเทศไปอยู่ต่างแดน และ กลายเป็น Fugitive ฟิ๊วจะทิฝ หรือ ผู้ร้ายหนีโทษ, ซึ่งคือพวกที่ On the run หรือ หลบ และ หนีไปเรื่อยๆ. พวกผู้ร้ายหนีโทษไม่ต่างอะไรมากจากทาสที่หนีเจ้านาย, ยกเว้นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ พวกทาสมีมากกว่าเยอะ. อย่างไรก็ตาม, ประเทศดังกล่าวก็พยายามนำคนหนีโทษมารับกรรมที่ทำไว้, โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักโทษชายที่ไม่มีแผ่นดินอยู่อย่างถาวร. ศัพท์ ที่มีความเกี่ยวกับการส่งผู้ร้ายกับแดน และ เนรเทศกลับสู่แดนมาติภูมินั้นน่าสนใจอย่างยิ่ง และ จะน่าสนใจมากกว่าคอลัมน์นี้หลายล้านเท่าถ้านำเอาผู้หนีโทษทั้งหลายกลับมารับโทษ. ศัพท์ที่น่าสนใจได้แก่คำเหล่านี้:
1) Expel เอ็กสเปล [transitive verb] to force a foreigner to leave a country, especially because they have broken the law or for political reasons: บังคับชาวต่างชาติให้ออกนอกประเทศ, โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะพวกเขาทำผิดกฏหมาย หรือ เหตุผลด้านการเมือง: ขับออก .
Ex1: If they catch you dealing drugs, you'll get expelled. ถ้าพวกเขาจับคุณ, คุณจะถูกขับออกปะเทศ.
Ex2: Three diplomats were expelled for spying. 3 นักการทูตถูกขับออกนอกประเทศเพราะจารกรรม.
2) Deport [transitive verb] to make someone leave a country and return to the country they came from, especially because they do not have a legal right to stay: ทำให้ใครบางคนออกจากประเทศ และ กลับสู่ประเทศที่เขามา, โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะพวกเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะอยู่: ส่งกลับ.
Ex1: He was deported from Thailand when his visa expired.เขาถูกส่งกลับจากประเทศไทยเพราะวีซ่ามหมดอายุ.
Ex2: The criminals should be deported back to their countries and receive their sentences. พวกอาชญากรควรถูกส่งกลับประเทศของพวกเขา และ รับโทษของตนเอง.
3) Extradite เอ็กสทระไดท์ [transitive verb] to use a legal process to send someone who may be guilty of a crime back to the country where the crime happened in order to judge them in a court of law: การใช้ขั้นตอนกฏหมายเพื่อส่งใครบางคนที่ทำผิดกลับประเทศที่เขาก่ออาชญากรรมเพื่อที่จะถูกตัดสินตามกฏหมาย: ส่งผู้ร้ายกลับ.
Ex1: Thai authorities are seeking to have the fugitive extradited to Thailand: เจ้าหน้าที่ไทยกำลังหาหนทางเพื่อที่จะให้ผู้หนีโทษกลับประเทศไทย.
Ex2: Our neighboring country has no policy to extradite Thai fugitives mostly corrupt politicians.ประเทศเพื่อนบ้านของเราไม่มีนโยบายส่งผู้ร้ายไทยกลับประเทศ ส่วนมากพวกนักการเมืองทุจริต.
4) Repatriate รีเพททริเอท (US)/ รีแพ็ททริเอท (UK): [transitive verb] to officially send someone back to their home country, often by force and against their will: การส่งใครกลับประเทศเขาอย่างเป็นทางการ, บ่อยครั้งโดยกำลัง หรือ ฝืนใจพวกเขา: ส่งกลับประเทศ.
Ex1: Thailand uses military helicopters to repatriate 1,000 refugees. ประเทศไทยใช้ เฮลิปค็อพเตอร์ทหารส่ง 1,000 ผู้อพยพกลับประเทศ
Ex2: The boat people have been forcibly repatriated. เหล่ามนุษย์เรือ (ผู้อพยพ) ถูกบังคับส่งกลับประเทศตน.
5) Exile เอ็กไซล์/ send into exile [transitive verb] to make someone leave their country for political reasons, for example because they oppose the government and are fighting against it: การทำให้ใครบางคนออกจากประเทศของตนเพราะเหตุผลทางการเมือง, ตัวอย่างเช่น เขาต่อต้านรัฐบาล และ ต่อสู้กับรัฐบาล: ลี้ภัย.
Ex1: The leader of the coup was exiled and the others imprisoned. หัวหน้ารัฐประหารได้ลี้ภัย และ ที่เหลือถูกจองจำ.
Ex2: The Prince and his family were sent into exile after the revolution. เจ้าชาย และ ครอบครัวของเขากลายเป็นผู้ลี้ภัย หลังจากการปปฏิรูป.
6) Banish แบ้นิช [transitive verb] to send someone away permanently from their country or the area where they live, especially as an official punishment: การส่งใครบางคนออกจากประเทศของตนเองอย่างถาวร หรือ จากพื้นที่ที่เขาอยู่, โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการลงโทษอย่างเป็นทางการ: เนรเทศ.
Ex1: Thousands were banished to Siberia. หลายพันคนถูกเนรเทศสู่ ไซบีเรีย.
Ex2: Napoleon was banished to the island of St Helena in 1815. นะโพเลียน ถูกเนรเทศไปยังเกาะ เซ้นท์ เฮ้ละนะ ในปี 1815.
การที่เหล่า Fugitive ทั้งหลายหนีกระบวนการการลงโทษทางกฎหมายได้นั้น เนื่องจากเงินซื้อคนได้, เงินทำให้คนตาบอดชั่วคราว, หูหนวกชั่วคราวได้, ทำให้กฎหมาย กลายเป็น กฎหาย ได้. แต่ Goodness cannot be purchased. Any one who wants it, he/she must do it by himself/herself. ความดีไม่สามารถซื้อได้. ใครอยากได้ต้องทำเอง. กฏธรรมชาติที่สำคัญที่สุดข้อหนึ่งที่ไม่มีมนุษย์คนใหนจะฝืน หรือ เอาชนะได้คือ the law of Karma หรือ กฏแห่งกรรม, ซึ่งคือกฎ Law of cause and effect. พวก Fugitive ทั้งหลายจะมีเงินมากมายก็ชนะกฎนี้ไม่ได้. หนีไม่พ้นต้องรับกรรมที่ทำ หรือ ที่แย่กว่านั้นคนที่รักมารับเคราะห์แทน. กรุณาอย่าอิจฉาพวกอาชญากร เพราะพวกเขาไม่รู้หรอกว่าจะมีอะไรที่เลวร้ายข้างหน้ารอพวกเขา และ ครอบครัวของพวกเขาอยู่.
ย้อนกลับ |
|