|
Freedom of the Press I
พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2484/ค.ศ. 1941 มาตรา 39
The Printing Act B.E. (Buddhist Era) 2484/A.D. (Anno Domini: แอโน ด๊อมะนิ่) 1941. Article 39 หรือพระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2484/ค.ศ. 1941 มาตรา 39 กล่าวไว้ว่า: A person shall enjoy the liberty to express his or her opinion, make speeches, write, print, publicize and express himself/herself by other means and that restrictions shall not be imposed except by virtue of legal provisions for maintaining national security, and safeguarding the rights, liberties, dignity, reputation, family and privacy rights of another person, maintaining public order and good morals or preventing the
deterioration of the mind or health of the public. บุคคลต้องได้รับสิทธิ์แสดงความเห็น, ทําการปราศรัย, เขียน, เผยแพร่ และ กล่าวในสิ่งที่ตนเองคิดหรือรู้สึก โดยวิธีการใดก็ตาม และ ข้อจํากัด/การควบคุม จะต้องไม่บังคับ/ลงโทษ ยกเว้นการออกบทบัญญัติโดยวิธีการทางกฏหมาย เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติ, และ พิทักษ์ สิทธิ, เสรีภาพ, เกียรติยศ, ชื่อเสียง, ครอบครัว และ สิทธิความเป็นส่วนตัวของบุคคลอื่น, รักษากฎระเบียบ และ ศีลธรรมที่ดี หรือ ป้องกัน จิตใจ หรือ สุขภาพของประชาชนไม่ให้เสื่อมลง.พระราชบัญญัติการพิมพ์เป็นกฎหมายที่ให้สิทธิแก่คนทุกคนเพื่อแสดงความคิดเห็นของตนเอง, แต่ต้องไม่ไปละเมิดสิทธิของผู้อื่นและไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ.
ผู้ที่เป็นนักการเมืองที่มีธุรกิจไม่ว่าจะเป็น การจําหน่ายสินค้า หรือ ขายบริการ. ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่กิจการของท่านจะถูกวิจารณ์จากผู้ที่ประกอบอาชีพสื่อ,โดยเฉพาะอย่างยิ่งกําไรมหาศาลที่เกิดขึ้นในช่วงที่ท่านดํารงตําแหน่ง. ขณะเดียวกัน, ถ้าธุรกิจของท่านมีคุณภาพที่แย่มาก - ทั้งสินค้าและบริการ, สื่อ และ ผู้บริโภค ย่อมมีสิทธิ์ตามกฎหมายที่จะรายงานความเป็นจริง.อย่างไรก็ตาม, ท่านก็มีสิทธิ์ที่จะฟ้องร้องในข้อหา defamation: เดะฟะเม๊ฉั่น หรือหมิ่นประมาท. You can sue the newspaper for libel. คุณสามารถฟ้องหนังสือพิมพ์ในข้อหาเขียนเรื่องเท็จ. และเรียกร้องค่าเสียหายสัก 400 ล้านบาท เพื่อทําให้คนอื่นหวาดกลัวไม่กล้าเขียนวิจารณ์ธุรกิจของท่าน. แต่, The Political mafia uses threats of physical violence or death to silence any criticพวกอันธพาลที่เป็นนักการเมืองจะข่มขู่ใช้ความรุนแรงต่อร่างกาย หรือ อุ้มฆ่า พวกที่วิจารณ์พวกเขา ผู้ที่ไร้ศักดิ์ศรี และ เกียตริไม่มี จะใช้วิธีนี้ บาปมาก. ผู้ที่ทํางานให้แก่ หนังสือพิมพ์, โทรทัศน์, และ วิทยุ คือผู้ที่เป็นสื่อ. จะแท้จริงหรือแอบแฝงปลอมแปลงนั้นมันอยู่ที่การกระทําของท่าน, เพราะทุกคนย่อมรู้หน้าที่ของตัวเองดีและรู้ว่ากําลังทําอะไรอยู่. อาชีพสื่อนั้นค่อนข้างอันตรายถึงชีวิต, ซึ่งมีหลายตําแหน่งและหลายแขนง. ผู้ที่ประกอบอาชีพนี้ควรอย่างยิ่งที่จะต้องรู้จักบทบาทของตัวเอง, และน่าจะจดจําศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับงานของตน. ศัพท์ที่นําเสนอคือศัพท์ที่เกี่ยวกับอาชีพของสื่อได้แก่:
1) Reporter: ริพ๊อร์ทเดอะ [countable noun] someone who finds out about events and writes about them in newspapers or tells people about them on television or radio. ใครบางคนผู้ซึ่งแสวงหาข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเขียนเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นลงในหนังสือพิมพ์หรือบอกผู้คนในทีวีหรือวิทยุ: ผู้รายงานข่าว.
Ex1: He used to work as a TV reporter in Phoenix, Arizona. เขาเคยทํางานเป็นผู้รายงานข่าว ทีวี ใน ฟี๊นิกส์, แอริโซ๊หนะ.
Ex2: I first met him when he came to interview me as a young reporter. ฉันพบเขาครั้งแรกเมื่อเขามาสัมภาษณ์ฉัน เมื่อเขาเป็นผู้รายงานข่าวหนุ่ม. ผู้ที่เป็นผู้รายงานข่าวหน้าใหม่ไม่มีประสบการณ์มากคือ Cub reporter (a young newspaper or television reporter without much experience) ส่วนนักข่าวที่ชอบย้ายบริษัทบ่อยคือ Roving: โรฝฝิ่ง reporter (someone who works for a newspaper or television company and moves from place to place).
2) Newscaster: นู๊วซ์แคสเต่อะ/US; Newsreader: นู๊วซ์รีดเด่อะ /UK: [countable noun] someone whose job is to read the news on the television, radio etc. ใครบางคนผู้ซึ่งมีงานอ่านข่าวในโทรทัศน์, วิทยุ ฯลฯ: ผู้อ่านข่าว.
Ex1: This man could be a newscaster. ชายคนนี้น่าจะ เป็นผู้อ่านข่าวได้.
Ex2: I've always thought you have the right voice to be a newsreader.ฉันคิดมาตลอดว่าเสียงของเธอช่างเหมาะสมที่จะเป็นผู้อ่านข่าว.
3) Journalist: เจ๊อร์นัลลิสท์ [countable noun] someone who reports the news, especially for a newspaper, as their profession. ใครบางคนผู้ซึ่งรายงานข่าว, โดยเฉพาะสําหรับหนังสือพิมพ์, ซึ่งเป็นวิชาชีพของพวกเขา: นักหนังสือพิมพ์.
Ex1: All foreign journalists have been told to leave the war zone as soon as possible. นักหนังสือพิมพ์ต่างชาติทั้งหมดได้ถูกบอกให้หนีจากเขตสงครามเร็วที่สุดที่จะเป็นไปได้.
Ex2: My father hates journalists - he doesn't trust any of them. พ่อของฉันเกลียดพวกนักหนังสือพิมพ์ เขาไม่เชื่อใจพวกนี้เลย.
4) Columnist: ค๊อลัมนิสท์ [countable noun] someone who writes articles, especially about a particular subject, that appear regularly in a newspaper or magazine. ใครบางคนผู้ซึ่งเขียนข้อความ, โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขียนเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง, ซึ่งข้อความปรากฏเป็นประจาํใน หนังสือพิมพ์หรือในวารสาร: นักขียนเรื่องประจํา
Ex1: Amornie is a columnist for the Pattaya Post who writes a column that teaches the English language.อาม๊อร์นิ่เป็นนักขียนเรื่องประจําใน พัทยาโพสท์ ผู้ที่เขียนคอลัมท์ซึ่งสอนภาษา อังกฤษ.
Ex2: Eddie Jones is a columnist for the Arizona
Republic. เอ็ดดิ่ โจนส์ เป็นนักขียนเรื่องประจําสําหรับหนังสือพิมพ์ แอริโซ๊หนะ ริพับลิค.
5) Correspondent: คอริสป๊อนเด็นท์ [countable noun] someone who reports the news about one particular subject or place, for a newspaper or news program. ใครบางคนผู้ซึ่งรายงานข่าวเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือ สถานที่ใดสถานที่หนึ่ง, สําหรับหนังสือพิมพ์ หรือ รายการข่าว: ผู้สื่อข่าวเฉพาะเรื่อง
Ex1: This report from our political correspondent, Diane Ross. รายงานนี้จากผู้สื่อข่าวการเมือง, ไดแอน รอสส์.
Ex2: Being a war correspondent is a genuinely dangerous job, just like they portray it in the movies.การเป็นผู้สื่อข่าวสงครามเป็นงานที่อันตรายอย่างแท้จริง, เหมือนในหนังนั้นแหละ.
6) Hack: แฮ็ค [countable noun] Informal someone who writes for a newspaper, especially one whose writing is not good or interesting. ภาษาพูด ใครบางคนผู้ซึ่งเขียนให้หนังสือพิมพ์, โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีงานเขียนที่ไม่ดี หรือ น่าสนใจ: นักเขียนปากกาทื่อ.
Ex1: A Sunday newspaper hack uncovered the story. นักเขียนปากกาทื่อหนังสือพิมพ์วันอาทิตย์เปิดโปงเรื่องราว.
Ex2: The editor sent one of his hacks to interview the murderer's girlfriend. บรรณาธิการส่งหนึ่งในนักเขียนปากกาทื่อของเขาไปสัมภาษณ์แฟนสาวของฆาตกร.
7) Anchor: แอ๊งเก่อะ American English [countable noun] someone who reads the news on TV and introduces news reports. อเมริกัน อังกฤษ ใครบางคนผู้ซึ่งอ่านข่าวในโทรทัศน์ และ แนะนํา รายงานข่าว: ผู้อ่านข่าว.
Ex1: He was the anchor for the CNN's six o'clock news for over 7 years. เขาเคยเป็นผู้อ่านข่าวสําหรับ ซีเอ็นเอ็น ตอนหกโมงเป็นเวลามากกว่า เจ็ดปี.
Ex2: Dan Rather, anchor of the CBS Evening News. แดน ราเธอะ, ผู้อ่านข่าวตอนเย็นของ ซีบีเอส.
ศัพท์ที่เกี่ยวกับอาชีพของเหล่าบรรดาสื่อยังไม่หมด, แต่เนื้อที่มีไม่เพียงพอต่อเนื้อหา; ดังนั้น, โปรดติดตามข้อมูลเพิ่มเติมในฉบับหน้า. และในฉบับหน้าจะมีการนําเสนอ พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2484/ค.ศ. 1941 มาตรา 41ซึ่งเป็นมาตราที่มีผลกระทบโดยตรงต่อผู้ที่ยึดอาชีพสื่อในการดํารงชีวิต น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง ไม่ควรพลาดเด็ดขาด. สําหรับผู้บริโภคข่าวสารทั้งหลายควรตระหนักเสมอว่า All news is biased ทุกข่าวโอนเอียน, เพราะเขียนเข้าข้างหรือโจมตีคนหนึ่งคนใดอยู่เสมอ, โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนําเสนอความเห็นและนําเสนอข้อมูลของบุคคลนั้นหรือองค์กรนั้นฝ่ายเดียว. แต่ข้อมูลอีกฝ่ายไม่นําเสนอเลยหรือนําเสนอน้อยมากและอาจบิดเบือนความจริง. Thats all for this week. Well, folks please try to take everything with a grain of salt/a pinch of salt. Its absolutely acceptable to be skeptical about what you see or hear but dont be too cynical. Sleep tight and see you all in my dream tonight. Adios mi amigos!
ย้อนกลับ
|
|